1. ท่ายืนหันหลังไปทางเดียวกัน ท่านี้ผู้หญิงยืนอยู่ด้านหน้าฝ่ายชาย ใช้ 2 มือเท้าฝาผนัง แยกขาออกและโก่งสะโพกเล็กน้อย ฝ่ายชายสอดใส่อยู่ด้านหลังใช้มือพยุง 2 สะโพก ข้อดีคือ มีฝาผนังช่วยพยุงฝ่ายหญิงไว้ ทั้งสอดใส่ได้ลึก แต่ทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายต้องแข็งแรงพอที่จะยืนทำภารกิจตั้งแต่ต้นจนจบ
2 .ท่ายืนหันหน้าเข้าหากัน ท่านี้ฝ่ายหญิงใช้หลังพิงฝาผนัง แยกขาหรือยกขาขึ้น 1 ข้าง เกี่ยวขาหรือสะโพกฝ่ายชาย หันหน้าเข้าหาฝ่ายชาย ท่านี้โรแมนติกอย่างยิ่งขอบอก เพราะเป็นท่าที่ร้อนแรง ประเภทโผผวาเข้าหากันในขณะที่มีเวลาไม่มาก ส่วนการจะสอดใส่ได้ลึกหรือไม่ขึ้นอยู่กับการแยกขาของฝ่ายหญิง
3. ท่าช้อนซ้อนกัน ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงนอนตะแคงหันหน้าไปทางเดียวกัน ฝ่ายหญิงอยู่ด้านหน้าฝ่ายชายสอดใส่เข้าด้านหลัง ท่านี้เป็นท่าของคู่รักที่ไม่ค่อยแข็งแรง เช่น เป็นโรคหัวใจและไขข้อ ***ท่านี้ยังเหมาะกับแม่ตั้งครรภ์ตั้งแต่เริ่มท้องจนถึงใกล้คลอด เป็นท่าที่ช่วยถนอมพลังงาน ไม่ให้เหนื่อยจนเกินไป
4. ท่าทำรักบนเคาน์เตอร์ ท่านี้ฝ่ายหญิงนั่งบนเคาน์เตอร์ซึ่งสูงพอดีกับระดับเอวของฝ่ายชาย แยกขาออกเพื่อกว้างพอให้ฝ่ายชายยืนแนบชิด ข้อดีคือ ความตื่นเต้นในท่วงท่าใหม่และสถานที่ การสอดใส่ได้ลึก ความสามารถกระตุ้นจุดจี (G-spot) ของฝ่ายหญิงซึ่งอยู่ที่ช่องคลอดด้านบนกึ่งกลางระหว่างปากมดลูกและรูปัสสาวะ รวมทั้งยังทำให้ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงถึงจุดสุดยอดได้ง่ายและรุนแรง ข้อควรระวังคือ ระวังอุบัติเหตุตกลงมาจากเคาน์เตอร์ และควรให้การกระทำเป็นเรื่องส่วนตัวมิดชิด
5. ท่านารีขี่ม้ากลับหลัง ท่านี้เหมือนท่านารีขี่ม้าเพียงแต่ฝ่ายหญิงหันหลังกลับ คือหันหลังให้ฝ่ายชาย นอกจากมีข้อดีเหมือนกับท่านารีขี่ม้าทุกประการ ยังแอบโรแมนติกเล็กๆ เพราะการหันหลัง ไม่รู้ว่าฝ่ายชายจะมีเซอร์ไพรซ์อะไร